
สกรูและน็อต เป็นวัสดุที่จำเป็นอย่างมากสำหรับการยึดวัตถุสองชิ้นให้ติดกัน มีหน้าที่คล้ายตะปูแต่จะอาศัยแรงหมุนเพื่อให้เกลียวเคลื่อนเจาะทะลุเข้าไปใน เนื้อวัตถุโดยทั่วไปคนส่วนมากมักเรียก "สกรู" กับ "น็อต" รวมกันว่า “น็อต” แต่ความเป็นจริงแล้ว เจ้าตัวยึดติดที่มีเกลียว และ ตัวแป้นรับ นั้น มันเรียกแยกออกจากกัน แต่จะมีชื่อแยกว่าอะไร แล้วมีการใช้งานต่างกันขนาดไหน มาดูกันรายละเอียดของแต่ละส่วนกันก่อน
คำว่า "สกรู" (ฺBolt) นั้น หมายถึง "น็อตตัวผู้" ซึ่งมีรูปแบบเป็นเกลียวรอบทรงกระบอกยาว มีความใหญ่และความยาว หัวสกรูจะมีหลายประเภท เช่น หัวหกเหลี่ยม หัวแฉก ฯลฯ
สกรู แบ่งออกเป็น 4 ประเภท หลักๆได้แก่

1.สกรูเกลียวไม้ เป็นสกรูที่เป็นเกลียวไม้ตลอด ปลายแหลม ไม่ใช้กับหัวน็อตตัวเมีย ใช้ขันเข้าไม้หรือพลาสติกได้โดยตรง มีหลายแบบขึ้นกับชนิดของหัวสกรู

2.สกรูเกลียว สกรูที่ใช้ร่วมกับหัวน็อตตัวเมีย หรือสลักตัวเมีย มีหัวสกรุหลายแบบ ทั้งเตเปอร์ หัวหนา หัวหกเหลียม ความยาวรวมคือสกรูตัวผู้ที่ใช้ร่วมกับน็อต

3.สกรูหัวจมหกเหลี่ยม เป็นสกรูที่มีหัวหลายแบบ แต่จะมีลักษณะหัวเป็นหัวจมหกเหลี่ยมที่ใช้กุญแจหัวหกเหลี่ยมขัน มีหัวสกรูหลายแบบ แต่โดยรวม คือ สกรูหัวจม
4.สกรูปลายสว่าน เป็นสกรูที่มีปลายคล้ายหัวสว่านไขเข้าไปในเนื้อเหล็กโดยตรง ไม่ต้องเจาะนำ มีหัวหลายแบบขึ้นกับการใช้งาน
หัวของสกรูก็จะแยกได้อีกหลายประเภทตามตัวอย่างด้านล่างนี้

1.หัวเตเปอร์ (Countersunk) หรือ หัว F (Flat Head) หรือ หัวเรียบ JF+
2.หัว O (Oval Head)
3.หัว P (Pan Head) หรือ หัวกลมนูน JP+
4.หัว T (Truss Head) หรือ หัวกะทะ JT+
5.หัวกลม (Round Head)
6.หัวหกเหลี่ยม (หรือ หัวเหลี่ยม) (Hex Head)
7.หัวหกเหลี่ยมติดแหวน (หรือ หัวเหลี่ยมติดจาน)
8.หัวหกเหลี่ยมผ่า
9.หัวจม
10.หัวกระดุม (Button Head)
ส่วน "น็อต" หรือที่มักเรียกกันว่า "หัวน็อต" นั้น หมายถึง "น็อตตัวเมีย" ซึ่งมีลักษณะคล้ายแหวน มีรูตรงกลาง ภายในจะมีร่องเป็นเกลียวเพื่อที่จะสามารถหมุนเข้ากับสกรูได้ หัวน็อตมีหลายประเภท เช่น หัวน็อตหกเหลี่ยม หัวน็อตจาน หัวน็อตกลม ฯลฯ
ตัวอย่างประเภทของน็อต
