เลือกยางมะตอยให้เหมาะกับหน้าฝน ปลอดภัยทุกพื้นผิว | KOH
เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน พื้นถนน ลานจอดรถ และพื้นที่รอบอาคารต่าง ๆ มักเผชิญกับปัญหาน้ำขัง รอยแตก หรือหลุมบ่อที่ขยายตัวจากการโดนน้ำซ้ำ ๆ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้รับเหมาและช่างทั่วไปที่ต้องดูแลงานซ่อมพื้นในช่วงเวลานี้อย่างต่อเนื่อง คำถามสำคัญคือ...
ควรเลือกยางมะตอยแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งานในฤดูฝน?
บทความนี้ บริษัท เค.โอ.เอช. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (KOH) จะพาคุณไปเจาะลึกว่า ประเภทของยางมะตอยที่ควรเลือกใช้ในฤดูฝนคืออะไร พร้อมเคล็ดลับการใช้งานให้ปลอดภัย คงทน และลดปัญหาเกิดซ้ำในช่วงเวลาที่ฝนตกชุก
ทำไมฤดูฝนถึงต้องระวังเรื่องการใช้งานยางมะตอย?
ฝนมีผลกระทบต่อการใช้งานและคุณภาพของยางมะตอยอย่างมาก ด้วยเหตุผลต่อไปนี้:
-
น้ำทำให้การยึดเกาะของยางมะตอยลดลง
-
พื้นผิวเปียกทำให้เนื้อยางมะตอยไม่เกาะพื้นเดิมได้ดี
-
หากซ่อมหลุมตอนพื้นยังเปียก ความแน่นของการอัดจะลดลง
-
โอกาสเกิดการลื่นในบริเวณที่ยังไม่เซ็ตตัวเต็มที่
ดังนั้น หากเลือกยางมะตอยไม่เหมาะสม หรือเทผิดวิธีในช่วงที่ฝนตกบ่อย งานซ่อมพื้นของคุณอาจพังซ้ำเร็วกว่าเดิม และเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้ใช้พื้นที่
ยางมะตอยมีกี่ประเภท? แบบไหนเหมาะกับหน้าฝน?
ก่อนเลือกใช้งาน เราต้องเข้าใจว่า ยางมะตอยหลัก ๆ มี 3 ประเภท ได้แก่:
1. ยางมะตอยร้อน (Hot Mix Asphalt)
-
ต้องใช้ความร้อนสูงในการเทและบดอัด
-
ยึดเกาะดี แต่ ไม่เหมาะกับหน้าฝน เพราะต้องใช้พื้นที่แห้งสนิท
-
หากโดนฝนระหว่างปูพื้น อาจเสียหายทันที
2. ยางมะตอยเย็น (Cold Mix Asphalt)
-
ใช้งานง่าย เทได้ทันทีโดยไม่ต้องอุ่น
-
เหมาะกับงานซ่อมจุดเล็ก ซ่อมเฉพาะจุด
-
สามารถใช้งานในพื้นที่ชื้นเล็กน้อยได้ แต่ไม่ควรใช้ขณะฝนตก
3. ยางมะตอยสำเร็จรูป (Ready-to-Use)
-
เป็นรูปแบบของยางมะตอยเย็นที่พร้อมใช้งาน
-
ดีที่สุดสำหรับงานซ่อมในฤดูฝน
-
เทง่าย อัดแน่นได้แม้ในสภาพเปียกบางระดับ
-
เหมาะกับงานฉุกเฉิน ซ่อมหลุม ปะรอยร้าวหน้าฝน
สรุป: ฤดูฝน ควรเลือกใช้ ยางมะตอยสำเร็จรูป เท่านั้น
ลักษณะของยางมะตอยที่เหมาะกับฤดูฝน
เมื่อต้องเลือกยางมะตอยสำหรับซ่อมพื้นช่วงหน้าฝน ให้เลือกแบบที่มีลักษณะดังนี้:
-
ไม่ต้องอุ่น เทได้เลย ใช้งานได้แม้ฝนพึ่งหยุด
-
ยึดเกาะได้แม้พื้นที่ชื้น ไม่จำเป็นต้องแห้ง 100%
-
บดอัดง่าย ใช้แรงคนน้อย ไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ
-
แห้งไว เซ็ตตัวได้เร็ว ลดปัญหาโดนฝนซ้ำ
-
ทนต่อน้ำขังระยะสั้น เนื้อแน่น ไม่ละลายง่าย
เคล็ดลับการใช้งานยางมะตอยให้ปลอดภัยในฤดูฝน
แม้จะเลือกยางมะตอยที่เหมาะสมแล้ว แต่หากใช้งานผิดวิธี ก็อาจเกิดปัญหาภายหลังได้
ก่อนเทยางมะตอย
-
กวาดพื้นให้สะอาดจากฝุ่น เศษหิน หรือใบไม้
-
หากพื้นยังมีน้ำขัง ให้เป่า หรือตากให้แห้งพอประมาณ
-
ใช้แปรงลวดหรือแปรงแข็งปัดคราบน้ำมันหรือตะไคร่ออก
ระหว่างใช้งาน
-
อย่าเทขณะฝนตกเด็ดขาด แม้จะเป็นยางมะตอยสำเร็จรูป
-
เทให้หนาพอประมาณ (อย่างน้อย 5 ซม.) เพื่อให้การอัดแน่นดี
-
อัดด้วยลูกกลิ้งมือหรือท่อนไม้ทันทีหลังเท
หลังเทยางมะตอย
-
กั้นพื้นที่เพื่อไม่ให้มีการใช้งานก่อนเซ็ตตัวอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
-
หากฝนมาเร็วหลังเทเสร็จใหม่ ๆ ให้ใช้ผ้าใบหรือพลาสติกคลุมชั่วคราว
ตัวอย่างงานที่มักเกิดในฤดูฝน และควรใช้ยางมะตอยซ่อม
สถานการณ์ | ทางเลือกที่แนะนำ |
---|---|
หลุมบ่อขนาดเล็กหน้าบ้าน | ยางมะตอยสำเร็จรูป 12 ถุง |
รอยร้าวทางเท้า | อุดด้วยยางมะตอยสำเร็จรูป เทเกลี่ยอัด |
พื้นทรุดตรงขอบบ่อพัก | เติมบดอัดเสมอผิวพื้น |
ทางลาดทางขึ้นบ้านที่ลื่น | ปรับผิวให้ลาดเรียบ พร้อมโรยทรายกันลื่น |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) ในการใช้ยางมะตอยหน้าฝน
ซ่อมพื้นตอนฝนหยุดทันทีได้ไหม?
ได้ แต่ควรเช็ด/ตากพื้นให้พอแห้งก่อน แล้วค่อยเทยางมะตอย
ยางมะตอยสำเร็จรูปเก็บได้นานแค่ไหน?
โดยปกติ 36 เดือน หากเก็บในที่แห้ง ไม่โดนแดดหรือฝน
ต้องโรยทรายไหมหลังเท?
หากใช้ในบริเวณทางเดินหรือพื้นที่ลาด อาจโรยทรายบาง ๆ เพื่อกันลื่นได้
แนะนำผลิตภัณฑ์ยางมะตอยหน้าฝนจาก KOH
บริษัท เค.โอ.เอช. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ขอแนะนำ ยางมะตอยสำเร็จรูป ขนาด 20 กก.
เหมาะกับการใช้งานในฤดูฝนโดยเฉพาะ
คุณสมบัติเด่น:
-
ใช้งานได้แม้พื้นชื้นเล็กน้อย
-
อัดแน่นง่าย ไม่ต้องใช้เครื่องบด
-
เซ็ตตัวไว ทนน้ำ
-
เหมาะกับช่าง/เจ้าของบ้าน/ผู้รับเหมา
แพ็กขนาด 20 กก. ใช้ได้ ~0.25 ตร.ม. ที่ความหนา 5 ซม.
มีพร้อมส่งทั่วประเทศ!
สรุป: ฤดูฝนต้องเลือกยางมะตอยให้ถูกงาน เพื่อความปลอดภัย
การเลือก ยางมะตอยสำเร็จรูป ที่เหมาะสมกับฤดูฝน ไม่เพียงแต่ช่วยให้งานซ่อมเสร็จไว แต่ยังปลอดภัย ลดความลื่น ลดการซ่อมซ้ำ และเสริมภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพให้กับช่างและผู้รับเหมาทุกคน
หากยังไม่แน่ใจว่างานของคุณควรใช้แบบไหน
สามารถปรึกษาทีม KOH เพื่อรับคำแนะนำฟรี
ติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อได้ที่
บริษัท เค.โอ.เอช. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
โทร: 02-599-3389
ไลน์: @kohinter
เว็บไซต์: www.kohinter.com