ประเภทของ Geotextile และวิธีเลือกใช้งานให้เหมาะสม

ในปัจจุบันงานก่อสร้างและงานวิศวกรรมโยธามีการนำวัสดุสังเคราะห์เข้ามาใช้อย่างแพร่หลายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคงของโครงสร้าง หนึ่งในวัสดุที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ Geotextile (จีโอเท็กซ์ไทล์) หรือผ้าใยสังเคราะห์ที่ใช้สำหรับงานดิน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมแรงดิน ป้องกันการชะล้าง หรือการระบายน้ำ

แต่ Geotextile ไม่ได้มีเพียงชนิดเดียว และการเลือกใช้งานแต่ละประเภทให้เหมาะสมกับโครงการถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากเลือกไม่ถูกต้องอาจทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ หรือโครงสร้างไม่แข็งแรงเท่าที่ควร

บทความนี้ บริษัท เค.โอ.เอช. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้จัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูง จะมาอธิบาย ประเภทของ Geotextile และวิธีเลือกใช้งานให้เหมาะสม เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้รับเหมาและช่างทั่วไปตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ดูสินค้า Geotextile ได้ที่นี่

Geotextile คืออะไร?

Geotextile (จีโอเท็กซ์ไทล์) คือผ้าใยสังเคราะห์ที่ผลิตจากวัสดุโพลีโพรพิลีน (PP) หรือโพลีเอสเตอร์ (PET) ใช้ปูรองดินเพื่อปรับปรุงสมรรถนะของดินและโครงสร้าง มีหน้าที่หลักดังนี้

Separation (การแยกชั้นดิน): ป้องกันไม่ให้ดินกับวัสดุอื่น เช่น หิน กรวด ผสมกัน
Reinforcement (การเสริมแรง): เพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคงของดิน
Filtration (การกรอง): ให้น้ำไหลผ่านได้ แต่ป้องกันไม่ให้ดินไหลไปกับน้ำ
Drainage (การระบายน้ำ): ช่วยให้น้ำไหลออกจากชั้นดินได้ง่ายขึ้น
Protection (การป้องกัน): ลดการชะล้างและป้องกันความเสียหายของโครงสร้าง

ประเภทของ Geotextile

1. Woven Geotextile (จีโอเท็กซ์ไทล์ชนิดถักทอ)

ลักษณะ: ผลิตโดยการถักทอเส้นใยให้มีความแข็งแรงสูง
คุณสมบัติเด่น: รับแรงดึงได้ดี เหมาะกับงานที่ต้องการเสริมความแข็งแรงของดิน
การใช้งาน:
- งานถนนและทางหลวง
- งานเสริมฐานรากเขื่อนหรือทางรถไฟ
- งานกันดินพังทลายที่ต้องรับแรงมาก

2. Non-Woven Geotextile (จีโอเท็กซ์ไทล์ชนิดไม่ถักทอ)

ลักษณะ: ผลิตจากเส้นใยที่ถูกอัดด้วยความร้อนหรือเคมี มีลักษณะคล้ายผ้าสักหลาด
คุณสมบัติเด่น: ซึมน้ำได้ดี เหมาะกับงานกรองและระบายน้ำ
การใช้งาน:
- งานระบบระบายน้ำใต้ดิน
- งานป้องกันตลิ่งและเขื่อน
- งานภูมิทัศน์และสวน

3. Knitted Geotextile (จีโอเท็กซ์ไทล์ชนิดถักแบบนิตติ้ง)

ลักษณะ: ผลิตโดยใช้เทคนิคการถักคล้ายการทอผ้า แต่มีความยืดหยุ่นมากกว่า
คุณสมบัติเด่น: ทนแรงดึงได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง
การใช้งาน:
- ใช้ในงานที่ต้องการทั้งความแข็งแรงและความยืดหยุ่น
- งานทางลาดชันและงานดินที่มีการเคลื่อนไหวสูง

การเปรียบเทียบแต่ละประเภท

ประเภท Geotextile	คุณสมบัติเด่น	เหมาะกับงาน
Woven	แข็งแรง รับแรงดึงสูง	ถนน เขื่อน รางรถไฟ
Non-Woven	กรองน้ำ ระบายน้ำได้ดี	ระบบระบายน้ำ ตลิ่ง ภูมิทัศน์
Knitted	ยืดหยุ่น รับแรงดึงปานกลาง	ทางลาดชัน ดินเคลื่อนไหว

เคล็ดลับวิธีเลือก Geotextile ให้เหมาะกับงาน

พิจารณาลักษณะงาน:
- งานถนนหรือเขื่อน เลือก Woven
- งานกรองน้ำหรือภูมิทัศน์ เลือก Non-Woven
- งานที่ต้องการความยืดหยุ่น เลือก Knitted
ตรวจสอบคุณภาพของผ้า:
- ความหนาแน่นของผ้า (GSM)
- มาตรฐานการผลิต (ASTM, ISO, มอก.)
คำนึงถึงความคุ้มค่า:
- วัสดุที่มีคุณภาพดีอาจมีราคาสูงกว่า แต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงในอนาคต
เลือกผู้จำหน่ายที่น่าเชื่อถือ:
- มีการรับประกันสินค้า
- ให้คำปรึกษาและมีสินค้าพร้อมส่ง

ตัวอย่างการใช้งานจริง

งานถนนสายหลัก: ใช้ Woven Geotextile เพื่อเสริมฐานรากและป้องกันการทรุดตัว
งานระบบท่อระบายน้ำ: ใช้ Non-Woven Geotextile เป็นตัวกรองรอบท่อ
งานป้องกันตลิ่ง: ใช้ Non-Woven ควบคู่กับหินหรือกล่องเกเบี้ยน
งานทางลาดเขา: ใช้ Knitted Geotextile เพื่อให้ทนต่อแรงดินเคลื่อนตัว

ทำไมต้องเลือก Geotextile จาก เค.โอ.เอช. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

คุณภาพมาตรฐานสากล: ผลิตจากวัสดุ PP และ PET ทนทานต่อการใช้งาน
หลากหลายขนาด: มีทั้งแบบ Woven และ Non-Woven ให้เลือก
บริการครบวงจร: ให้คำแนะนำการเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม
พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ: รองรับทุกโครงการใหญ่และเล็ก

ดูรายละเอียดสินค้า Geotextile ได้ที่นี่

สรุป

Geotextile ถือเป็นวัสดุสำคัญที่งานก่อสร้างและงานโยธาในปัจจุบันขาดไม่ได้ เพราะช่วยเสริมความแข็งแรงของดิน กรองและระบายน้ำ ป้องกันการชะล้าง และเพิ่มความคุ้มค่าให้โครงการ การเลือก ประเภทของ Geotextile ให้เหมาะสม จึงเป็นสิ่งที่ผู้รับเหมาและช่างทั่วไปควรพิจารณาอย่างรอบคอบ

หากคุณกำลังมองหา Geotextile คุณภาพสูง เลือกได้ที่ บริษัท เค.โอ.เอช. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้จัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างครบวงจรที่คุณวางใจได้

โทร: 02-599-3389
ไลน์: @kohinter
เว็บไซต์: www.kohinter.com